วันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ลูกกินยากทำอย่างไรดี



คุณพ่อและคุณแม่ส่วนใหญ่จะเครียดและกังวลใจมาก หากลูกน้อยเป็น "เด็กกินยาก" ทั้งที่พยายามทุกทาง เพื่อให้ลูกรับประทานอาหาร แต่สุดท้ายก็เป็นผลให้เด็กต่อต้านมากขึ้น ปัญหาก็รุนแรงและเรื้อรังยิ่งขึ้น
โดยปกติจะพบ "เด็กกินยาก" ในเด็กทั่วไปร้อยละ 3-5 เปอร์เซ็นต์ และมักอยู่ในวัย 1-6 ปี ซึ่งเด็กมักจะมีอาการดังนี้ คือ รับประทานอาหารช้า ชอบอมข้าว หรือร้องไห้อาละวาด บ้วนทิ้ง ไม่ยอมกินข้าว หรืออาเจียนอาหารที่รับประทานเข้าไปแล้วออกมา โดยพ่อและแม่มันจะเคี่ยวเข็น อ้อนวอน คะยั้นคะยอ สี้างเงื่อนไขให้กับเด็ก ให้สินบน หรือบังคับลงโทษด้วยวิธีการต่างๆ
ส่วนใหญ่เด็กจะได้รับอาหารต่อวันในปริมาณที่เพียงพอสำหรับร่างกาย แต่ในกรณีที่เด็กได้รับอาหารน้อยกว่าปกติจะทำให้มีการเจริญเติบโตที่ล่าช้า ดังนั้นเด็กควรได้รับการตรวจประเมิน เพื่อหาและรักษาความเจ็บทางร่างกายและจิตใจโดยละเอียด
วิธีการแก้ไขปัญหาการกินในเด็ก
1.  ฝึกเด็กตั้งแต่เริ่มต้น โดย
  • ให้นั่งโต๊ะรับประทานอาหารพร้อมคุณพ่อกับคุณแม่
  • ไม่เปิดทีวีระหว่างรับประทานอาหาร
  • ให้เวลารับประทานอาหารประมาณ 30 นาที ถ้าเด็กไม่รับประทานอาหาร เมื่อหมดเวลาให้เก็บอาหารทันที
  • ตักอาหารให้พอดีไม่มากเกินไป
  • ระหว่างรับประทานอาหารให้พูดคุยแต่เรื่องดีๆ
  • อย่าบังคับให้เด็กรับประทานอาหารหรือลงโทษ เมื่อเด็กไม่รับประทานอาหาร
  • เมื่อเด็กรับประทานอาหารได้ดีให้ชื่นชม หากทำไม่ได้ดีให้เพิกเฉย อย่าตำหนิ
  • งดเว้นการรับประทานอาหารอื่นๆ ระหว่างมื้ออาหาร เช่น นม ขนม หรือของจุบจิบ เป็นต้น
2.  ให้แก้ไขสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาการกินในเด็ก ได้แก่
     2.1  สาเหตุที่เกิดจากตัวเด็ก ได้แก่
  • เด็กอายุประมาณ 1 ขวบ จะเริ่มพัฒนาความเป็นตัวของตัวเอง และเด็กจะต่อต้านหากถูกบังคับ
  • ปริมาณอาหารมากเกินไป
  • เด็กไม่ชอบรับประทานอาหารสิ่งนั้น เช่น ผัก ไม่ควรบังคับ แต่ควรดัดแปลงอาหารนั้นในรูปแบบต่างๆ แล้วชักชวนให้เด็กลองรับประทาน
  • เด็กขาดความอยากรับประทานอาหารเนื่องจากรับประทานขนมหรือนมระหว่างมื้อแล้ว
  • เด็กมีประสบการณ์ที่ไม่ดีเกี่ยวกับการรับประทานอาหาร เช่น ถูกบังคับป้อนจนเจ็บปาก หรือบรรยากาศที่ไม่ดีในการรับประทานอาหาร เช่น ถูกดุหรือถุกตี เป็นต้น
  • ขณะที่รับประทานอาหารเด็กมีความเจ็บป่วยทางร่างกาย หรือมีปัญหาทางอารมณ์
      2.2  แก้ไขสาเหตุที่เกิดจากพ่อแม่หรือคนเลี้ยงดู
  • ลดความกังวลใจลงบ้างเกี่ยวกับการรับประทานอาหารของเด็ก เช่น กังวลว่าเด็กจะมีน้ำหนักตัวน้อย หรือได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ เพราะความกังวลนั้นส่งต่อไปให้เด็ก ทำให้มีผลต่อการไม่รับประทานอาหารได้
  • ให้เด็กได้มีโอกาสช่วยเหลือตัวเองเกี่ยวกับการรับประทานอาหารบ้าง เช่น ให้เด็กได้เริ่มหยิบอาหารใส่ปากเอง หรือเอาช้อนใส่ปากได้เอง จะหกเลอะเทอะบ้างก็ไม่เป็นไร
3.  ปฏิบัติตามข้อ 1 และ ข้อ 2 อย่างสม่ำเสมอหากมีข้อสงสัย สามารถขอคำแนะนำจากกุมารแพทย์ หรือจิตแพทย์เด็กได้
วิธีการป้องกันปัญหาเด็กกินยาก
  1. เริ่มให้อาหารเสริมในเวลาที่เหมาะสม (ประมาณ 4 เดือน)
  2. ฝึกสุขปฏิบัติในการกินให้เด็กตั้งแต่เริ่มต้น
สรุป
ปัญหาที่เด็กกินอาหารยากเป็นปัญหาที่พบบ่อย ดังนั้นการดูแลและป้องกันปัญหาตั้งแต่เริ่มต้นจะช่วยให้เด็กดีขึ้นได้ มิฉะนั้นอาจเกิดปัญหาต่างๆ ตามมาได้ เช่น ปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ลูก ปัญหาพฤติกรรมก้าวร้าว และปัญหาด้านจิตใจ เป็นต้น เช่น เก็บกด ขี้กังวล

ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก #หมอมินบานเย็น

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
วิฐารณ บุญสิทธิ. จิตเวชเด็กสำหรับกุมารแพทย์ (ฉบับปรับปรุง). ชวนพิมพ์ : กรุงเทพฯ, กุมภาพันธ์ 2538: 104-109.


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น